เรื่องสำคัญของการควบคุม หรือการรักษาโรคเบาหวาน คือ
การกำหนดเป้าหมายของระดับน้ำตาลในเลือด
การทำความเข้าใจ และเรียนรู้เรื่องระดับน้ำตาลในเลือด จัดเป็นเรื่องสำคัญของการควบคุม หรือการรักษาโรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดที่เหมาะสมนั้นจะแตกต่างกันไปตลอดทั้งวัน และยังมีความแตกต่างกันในแต่ละคนด้วย โดยที่ระดับน้ำตาลในเลือดมักจะต่ำที่สุดก่อนอาหารเช้า และ มักจะสูงที่สุดในไม่กี่ชั่วโมงหลังอาหาร โดยในผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีการกำหนดเป้าหมายของระดับน้ำตาลในเลือดเป็นช่วงๆ โดยที่การกำหนดเป้าหมายของระดับน้ำตาลในเลือดจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยหลายประการ เช่น อายุ เงื่อนไขสุขภาพอื่น ๆ หรือ ภาวะเจ็บป่วย ระยะเวลาที่เป็นเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด ปัญหาเรื่องการมองเห็น ไต สมอง นิสัยส่วนตัว และปัจจัยในการดำเนินชีวิต ภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ความตึงเครียด
“เป้าหมายของระดับน้ำตาลในเลือดที่เหมาะสมนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน “
ไม่อยากเกิดอาการแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน
ถ้าค่าระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป ควรทำอย่างไร
หากปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินกว่าเกณฑ์ปรกติ จะทำให้มีโอกาสเกิดอาการแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานมากขึ้น ดังนั้น โดยทั่วไปแล้วแพทย์จึงแนะนำให้ปฏิบัติ ดังนี้
ค่าระดับน้ำตาลในเลือดที่ระยะเวลาต่างๆ สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ไม่ว่าจะเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 หรือ 2 หรือ เบาหวานในขณะตั้งครรภ์ โดยอ้างอิงตาม American Diabetes Association (ADA), Joslin Diabetes Center (JDC), และ American Association of Clinical Endocrinologists (AACE) ดังนี้
การแปลผลค่าระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นอยู่กับบรรทัดฐานและเป้าหมายของแต่ละคน โดยระดับน้ำตาลในเลือดที่ดีสำหรับคนคนหนึ่งอาจสูงหรือต่ำเกินไปสำหรับอีกคนหนึ่ง
การแปลผลค่าระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นอยู่กับบรรทัดฐานและเป้าหมายของแต่ละคน โดยระดับน้ำตาลในเลือดที่ดีสำหรับคนคนหนึ่งอาจสูงหรือต่ำเกินไปสำหรับอีกคนหนึ่ง
นอกจจากเราจะกำหนดเป้าหมายของการรักษาด้วยระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว ค่าระดับน้ำตาลในเลือดยังสามารถบอกถึงความเสี่ยงต่ออาการ หรือ โรคต่างๆได้ด้วย
ความถี่ในการตรวจค่าระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1
ผู้ใหญ่: อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และอาจมากถึง 10 ครั้งต่อวัน เช่น ก่อนอาหารเช้า, ก่อนอาหารกลางวัน และ เย็น, 2 ชั่วโมงหลังอาหาร, ก่อนและหลังการออกกำลังกาย, ก่อนนอน
เด็ก: อย่างน้อยวันละ 4 ครั้ง โดยควรทำการทดสอบเวลาต่างๆ เช่น ก่อนมื้ออาหาร, ก่อนนอน, หลังอาการ 1-2 ชั่วโมง, ก่อนและ หลังออกกำลังกาย เป็นต้น
ความถี่ในการตรวจค่าระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2
ความถี่ของการทดสอบที่แนะนำจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณอินซูลินที่ใช้ และการใช้ยา สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ส่วนใหญ่ ที่ยังไม่ได้ใช้อินซูลินอาจจะไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบบ่อยๆ แต่การตรวจค่าน้ำตาลในเลือดระหว่างวันจะช่วยสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบแบบเรียลไทม์ของกิจกรรม
ความถี่ในการตรวจค่าระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานขณะตั้งครรภ์
ผู้ที่ใช้อินซูลินควรทำการตรวจค่าระดับน้ำตาลก่อนอาหาร และ 1 ชั่วโมงหลังอาหาร ส่วนผู้ที่ไม่ได้ใช้อินซูลินควรทำการตรวจค่าระดับน้ำตาลตอนงดอาหารและ 1 ชั่วโมงหลังอาหาร
ตัวช่วยสำหรับเพิ่มคุณภาพชีวิต เมื่อต้องอยู่ร่วมกับเบาหวาน
© All 2021 All rights reserved.